ข่าวดังออนไลน์

กรมการท่องเที่ยวและตำรวจท่องเที่ยวเตือนประชาชนตรวจสอบใบอนุญาตบริษัททัวร์ ป้องกันมิจฉาชีพลอยแพ หลอกพาไปทำงานต่างประเทศผิดกฎหมาย จากกรณีมีการแอบอ้างเป็นบริษัททัวร์ สามารถส่งคนไทยไปทำงานด้านการเกษตรในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งให้รายได้วันละประมาณ 8,500 เยน หรือประมาณ 2,000 บาทต่อวัน แต่ต้องโอนเงินค่านายหน้าให้บริษัทดังกล่าว เพื่อพาเดินทางออกนอกประเทศในรูปแบบกรุ๊ปทัวร์ โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 29,990 – 100,000 บาท เมื่อถึงวันเดินทางบริษัททัวร์ลอยแพ ขอยกเลิกการเดินทางออกไปก่อน และยังไม่คืนเงินที่เรียกเก็บไปแล้วก่อนหน้านี้ ทำให้ผู้เสียหายกว่า 80 คน ออกมาร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซ้ำยังถูกบริษัททัวร์ดังกล่าวแจ้งความกลับในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จนทำให้ตกเป็นจำเลยในคดี นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ทันทีที่กรมการท่องเที่ยวและกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวทราบเรื่อง ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พบว่ามีการจดทะเบียนนิติบุคคลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยบริษัทพารวย ทราเวล จำกัด จดทะเบียนจังหวัดขอนแก่น และบริษัท พิศวริน อินโนเวชั่น

กรมการท่องเที่ยวร่วมแถลงข่าวจับกุมเจ้าของบริษัทนำเที่ยวทิ้งทัวร์ สร้างความเสียหายกว่า 8 ล้านบาท วันศุกร์ที่ 26 พฤษาคม 2565 เวลา 10.30 น. นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เข้าร่วมแถลงข่าวจับกุมเจ้าของบริษัทนำเที่ยว Happy Trips ข้อหาฉ้อโกงประชาชนในการหลอกขายทัวร์เดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนกว่า 320 ราย และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 8 ล้านบาท โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(สส) เป็นประธานแถลงข่าว พร้อมด้วย พล.ต.ต.ม.ล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ ผกก.คธม.บช.ทท. พ.ต.อ.รัชพล รุ่งกิตติวรกุล ผกก.ฝอ.2 บก.อก.บช.ทท. พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุล รอง ผบก.ทท.1 และพ.ต.อ.วงกต สุวรรณวัตน์ ผกก.สภ.คูคต จว.ปทุมธานี ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องสมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต การแถลงข่าววันนี้ อธิบดีกรมการท่องเที่ยวได้ชี้แจงการกระทำผิดของบริษัทนำเที่ยวรายดังกล่าวว่า มีความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ มาตรา ๒๔ ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องไม่กระทำการอันใดให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว หรือนักท่องเที่ยว ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดไม

ประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ครั้งที่ 3/2566 วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2566 เวลา 09.30 น. นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ครั้งที่ 3/2566 โดย อธิบดีกรมการท่องเที่ยว มอบหมายให้ นายบุญเสริม ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว และข้าราชการกรมการท่องเที่ยว พร้อมด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประเด็นสำคัญในการประชุมครั้งนี้ คือ 1. แนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย 2. แนวทางสนับสนุนการผลิตบุคลากรในภาคการท่องเที่ยวให้กับราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย #กรมการท่องเที่ยว #PRกรมการท่องเที่ยว #กองพัฒนามาตรฐานบุคลากรด้านการท่องเที่ยว #การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว #การขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว #แรงงานในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

กรมการท่องเที่ยวประชุมหารือแก้ปัญหาบริษัททัวร์หลอกขายทัวร์ไปต่างประเทศ วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2566 เวลา 14.00 น. นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว พร้อมด้วย นายบุญเสริม ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ในฐานะนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง นางสาวอุบลวรรณ สุจริตกุล ผู้อำนวยการกองทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และข้าราชการกรมการท่องเที่ยว ประชุมหารือปัญหาเกี่ยวกับบริษัททัวร์ท่องเที่ยวไปต่างประเทศ กับ สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว โดยมี นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว และคณะ ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 5 ชั้น 2 กรมการท่องเที่ยว การประชุมดังกล่าวเป็นการหารือร่วมกันในการหาทางแก้ไข และบรรเทาปัญหา ที่เกิดจากบริษัททัวร์ไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และการหลอกขายทัวร์เดินทางไปต่างประเทศ .#กรมการท่องเที่ยว #PRกรมการท่องเที่ยว #ทัวร์ #การแก้ปัญหาหลอกขายทัวร์ #การหลอกขายทัวร์

ประเทศพม่า ประเทศเพื่อนบ้านของเรามีการท่องเที่ยวที่โดดเด่นด้านโบราณสถานเก่าแก่ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา อย่างเช่นอาณาจักรพุกามที่มีชื่อเสียงระดับโลกซึ่งเต็มไปด้วยเจดีย์เก่าแก่ตั้งแต่สมัยโบราณราวกับเป็น “ทุ่งเจดีย์” นอกจากนี้พม่ายังมี “ป่าเจดีย์” ซึ่งมีความสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน “ป่าเจดีย์” เป็นที่รู้จักในชื่อ “เจดีย์กั๊กกู่” (Kakku Pagodas) ตั้งอยู่ที่รัฐชาน เมืองตองจี อยู่ใกล้กับทะเลสาบอินเลอันมีชื่อเสียงของพม่า และยังเป็นที่อยู่ชองชาวปะโอชาวพื้นเมืองของที่นี่ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นไกด์คอยให้ความรู้นักท่องเที่ยว ที่เจดีย์กั๊กกู่มีความโดดเด่นอยู่ที่เจดีย์โบราณจะเรียงรายซ้อนกันอยู่ในพื้นที่ใกล้กัน ภายในจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ประจำเจย์ดี มีเจดีย์ทั้งขนาดสูงกว่า 40 เมตร เรียงสลับกับเจดีย์เล็กจนเป็นภาพวิวทิวทัศน์น่าตื่นตาตื่นใจราวกับเป็นป่าของเจดีย์ เมื่อเจดีย์สะท้อนกับผืนน้ำทะเลสาบยังทำให้เกิดภาพถ่ายที่สมบูรณ์ ว่ากันว่าเจดีย์ก๊กกู่มีอายุกว่า 2,000 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 3 ในสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราชที่ประสงค์ให้สร้างเจดีย์จำนวนมากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนเจดีย์

กรมการท่องเที่ยวเผยผลสำเร็จการเข้าร่วมงานเทศกาลหนังปักกิ่ง เจรจาดึงผู้สร้างรายใหญ่ของจีนลงทุนในไทยกว่า 750 ล้านบาท กรมการท่องเที่ยวเปิดเผยผลสำเร็จจากการเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงปักกิ่ง ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 21 - 27 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา สามารถประชาสัมพันธ์เชิญชวนคณะผู้สร้างภาพยนตร์จีนให้เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยได้หลายราย คาดผลสำเร็จครั้งนี้จะทำให้ผู้สร้างจีนเลือกโลเคชั่นไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ มีเม็ดเงินลงทุนในไทยกว่า 750 ล้านบาท นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยถึงการเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงปักกิ่ง ครั้งที่ 13 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า "กรมการท่องเที่ยว โดยกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ (Thailand Film Office) ได้เข้าร่วมออกคูหานิทรรศการในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงปักกิ่งเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นงานเทศกาลภาพยนตร์ที่สำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีน ภายในงานนอกจากมีการประกาศรางวัลภาพยนตร์สาขาต่างๆ แล้ว ยังมีการเจรจาธุรกิจซื้อขายภาพยนตร์ จัดแสดงอุปกรณ์การถ่ายทำ และการประชาสัมพันธ์สถาน

กรมการท่องเที่ยว ผนึกกำลัง สถาบันเทคโนโลยีไทย - ญี่ปุ่น MOU พัฒนาหลักสูตร Sandbox Education สาขาการท่องเที่ยว วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2566 เวลา 11.00 น. นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว และ รศ.รังสรรค์ เลิศในสัตย์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการร่วมพัฒนาหลักสูตร และการจัดการเรียนการสอนระหว่างกรมการท่องเที่ยว และสถาบันเทคโนโลยีไทย - ญี่ปุ่น โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของท้้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี ณ ห้องประชุมสภา ชั้น 5 อาคารเอ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น การลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในครั้งนี้ เป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น และกรมการท่องเที่ยว ในการพัฒนาความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ให้กับนักศึกษาในด้านการวางแผนและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ด้านการบริการการท่องเที่ยว ในสถานประกอบการหรือองค์การการท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยของกรมการท่องเที่ยว รวมถึงพัฒนาบุคลากรในภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและการบริการ ภาคการศึกษา ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้  งานวิชาการ งานวิจัย การบริการวิชาการ สัมมนาและก