ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สทท. แถลงสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยปี ๒๕๖๒ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส ๒/๒๕๖๒

วันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๒ นายธนพล ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว TTAA มอบหมายให้นางสาวทัศนีย์ เกียรติกำจรชัย เลขาธิการสมาคมฯ เป็นตัวแทนเข้าร่วมงานแถลงข่าวสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยปี ๒๕๖๒ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส ๒/๒๕๖๒ ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อคาดการณ์ถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับการสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในไตรมาสที่ ๒ ปี ๒๕๖๒ นี้ เป็นผลการสำรวจในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน และคาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาสที่ ๓/๒๕๖๒ ตลอดจนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี ๒๕๖๒

โดยสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอลงจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าต่างๆ ทั้งจีนและเม็กซิโก ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศและการลงทุน โดยในระยะสั้นเริ่มเห็นการส่งออกสินค้าของประเทศกลุ่มเอเชียหดตัวสูงโดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนสมาร์ทโฟน เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยในไตรมาส ๑/๒๕๖๒ ขยายตัวร้อยละ ๒.๘ ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอลงต่อเนื่อง ตามการส่งออกสินค้าที่กลับมาหดตัว ขณะที่การใช้จ่ายในประเทศยังขยายตัวได้แต่มีแนวโน้มชะลอลงในช่วงที่ยังรอการจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ดี ยังประเมินว่ารายรับภาคการท่องเที่ยวในปีนี้ยังคงขยายตัวและไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกมากนัก ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ผ่านมาตรการทางภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ รวมถึงมีมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวเพิ่มเติมที่สำคัญได้แก่ การขยายระยะเวลามาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า (visa on arrival) ออกไปเพิ่มเติมอีก ๖ เดือน และการอนุญาตให้นำค่าใช้จ่ายเมืองหลักเมืองรองมาลดหย่อนภาษี อัตราแลกเปลี่ยนทรงตัว อัตราเงินเฟอทั่วไปปรับสูงขึ้น ตามราคาผักและผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งส่งผลให้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น และราคาคาโดยสารสาธารณะที่เพิ่มขึ้นตามนโยบายของภาครัฐ นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับราคาเนื้อสัตว์ที่อาจสูงขึ้นเนื่องจากปัญหาขาดแคลนเนื้อหมูในจีนหลังเกิดโรคระบาดส่งผลให้จีนมีการเร่งนำเข้าค่อนข้างมาก

ส่วนการสำรวจความเห็นผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในไตรมาสที่ ๒/๒๕๖๒ อยู่ที่ ๑๐๐เท่ากับคาดการณ์ไว้จากไตรมาสก่อน สะท้อนสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างทรงตัวต่อเนื่องจากช่วงปลายปีก่อน ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการมีความกังวล มาจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ทั้งในด้านการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม และภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังซบเซาทำให้กำลังซื้อลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลต่อเนื่องมาหลายไตรมาส นอกจากนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนประเมินว่ามีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากการที่ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวดีกว่าปกติจากการเข้าถึงข้อมูลเรื่องแหล่งท่องเที่ยวมีมากยิ่งขึ้น และกิจกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจจาก ททท. มีส่วนกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ปัจจัยด้านการเดินทางที่สะดวกและง่ายขึ้น รวมถึงการขยายตัวของสายการบินต้นทุนต่ำยังช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสที่ ๓/๒๕๖๒ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ๙.๗๐ ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๗.๐๖ จากปี ๒๕๖๑ และในปี ๒๕๖๒ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม ๔๐.๐๖ ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๔.๖๕ จากปี ๒๕๖๑
สทท.จึงขอเสนอให้ภาครัฐควรร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านมาตรการสิทธิประโยชน์ด้านภาษี และกิจกรรมการตลาดอื่นๆ ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว สนับสนุนให้มีการศึกษาศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว (carrying capacity) ให้ครอบคลุมในทุกขั้นตอนและทุกจังหวัด พัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งให้มีทางเลือกที่หลากหลาย และครอบคลุมทุกพื้นที่ ส่วนผู้ประกอบการควรมีการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบถึงผลประโยชน์ทางด้านภาษีที่นักท่องเที่ยวจะได้รับจากสถานประกอบการที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย วางแผนการดำเนินธุรกิจที่คำถึงสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่การปรับตัวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มีการทำงานเป็นเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการในพื้นที่เดียวกัน และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวเมืองหลักเมืองรองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงพัฒนาระบบ IT และความพร้อมของบุคลากรที่จะทำหน้าที่ดูแลระบบเพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารสองทางและให้บริการด้านข้อมูลและบริการต่างๆ กับนักท่องเที่ยว และส่งเสริมให้มีบริการรถขนส่งสาธารณะในพื้นที่ ที่มีความหลากหลายและครอบคลุมไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
เครดิต ทีมงาน ที่นี่เมืองไทย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นายกฯ เชื่อมั่นงานตรุษจีน เยาวราช ปี 2567 ปลอดภัย จัดยิ่งใหญ่แน่นอน

วันนี้ (26 มกราคม 2567) เวลา 09.00 น. ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำคณะผู้จัดงานตรุษจีนเยาวราช เข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อมอบเสื้อตรุษจีน ซึ่งมีสัญลักษณ์ “มังกร” จากภาพวาดฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานเทศกาลตรุษจีน ประจำปี  2567 ณ บริเวณถนนเยาวราช กรุงเทพมหานคร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งวันตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเนื่องในเทศกาลวันตรุษจีนได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามาในประเทศไทยแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และหวังว่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง พร้อมขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทยให้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยมีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยทาง ท

ประธานชุมชนโปลิศสภา ตลาดน้อย จัดงานวันเด็ก 2567

วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2567 เวลา 15.30 น. ณ ชุมชนโปลิศสภา แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์  สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเขต 1 พรรคก้าวไกล (พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ บางรัก ดุสิต) นาย กำแหง ตันกำแหง ผู้บริหารบริษัท อุดมกิจฟิตติ้งวาล์ว จำกัด, บริษัท ยู.แทรเวล วาเคชั่นส์ จำกัด ร่วมกับนายวรเมธ จงโอฬาร (เฮียเกิด) ประธานชุมชนโปลิศสภา เขตสัมพันธวงศ์ กทม. และผู้ใหญ่ใจดี มาร่วมแจกของวันเด็ก เพื่อสร้างสีสันและความสุขให้แก่เด็กๆ ในพื้นที่อย่างมีความสุขและอิ่มแบบจุกจุก ภายในงานมีอาหารบริการให้ผู้เข้าร่วมงานให้อิ่มๆพร้อมมีของติดไม้ติดมือกลับบ้านทุกท่าน #ชุมชนโปลิศสภา #ตลาดน้อย #สัมพันธวงศ์ #ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี #วันเด็ก2567

กรมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการไทยรับ 23 รางวัล ASEAN Tourism Awards 2024 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เชื่อมั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาเซียน

กรมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการไทยรับ 23 รางวัล ASEAN Tourism Awards 2024 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เชื่อมั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาเซียน จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเข้าสู่มาตรฐาน ตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว ฉบับที่ 2 พ.ศ.2559-2568 (ASEAN Tourism Strategic Plan: ATSP 2016-2025) ซึ่งกรมการท่องเที่ยวมีภารกิจในการพัฒนาและส่งเสริมมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน รวมถึงมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน ในปีนี้กรมการท่องเที่ยวจึงได้ดำเนินการตรวจประเมินและให้การรับรองแก่สถานประกอบการและชุมชน ตามมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียนทุกมาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานโรงแรมสีเขียวอาเซียน มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนอาเซียน มาตรฐานโฮมสเตย์อาเซียน มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะอาเซียน และมาตรฐานเมืองท่องเที่ยวสะอาดอาเซียน ทำให้คว้ารางวัลมาได้จำนวน 23 รางวัล เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้นำคณะผู้แทนหน่วยงานและผู้ประกอบการเข้าร่วมพิธีการรับรางวัลการท่องเที่ยวอาเซียน ปี