VietJet สายการบินเดียวในโลก ที่มีกำไรในช่วงโควิด-19

ปี 2020 ถือเป็นฝันร้ายของธุรกิจสายการบินทั่วโลก บรรดาสายการบินต้องหยุดให้บริการ เครื่องบินจอด ground ธุรกิจหยุดนิ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปทั่ว เกิดวิกฤตทางการเงินกับทุกบริษัท 

ท่ามกลางข่าวร้ายของวงการการบิน กลับมีเพียงสายการบินเดียวที่มีผลประกอบการเป็นบวก และยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ นั่นคือ VietJet Air ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าศึกษาอย่างมาก ว่า VietJet ทำได้อย่างไร

ข้อมูลจากวารสาร Airline Ratings วิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ VietJet กลายเป็นสายการบินที่ยืนหนึ่งได้ในช่วงปี 2020 สวนกระแสธุรกิจการบินของโลก เกิดจาก

1. การตัดสินใจปรับตัวอย่างรวดเร็วสู่การให้บริการขนส่งสินค้าโดย VietJet เป็นสายการบินแรกในโลกที่ปรับเปลี่ยนภายในตัวเครื่องบินจากเครื่องบินโดยสารมาเป็นเครื่องบินขนส่งพัสดุ (Air Cargo) พร้อมได้รับการรับรองด้าน cargo in passenger cabin โดยเริ่มต้นให้บริการขนส่งพัสดุแบบเต็มลำตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 หรือเดือนแรกๆ ตั้งแต่โลกเริ่มรู้จักกับโควิด-19 การปรับตัวครั้งนี้ช่วยให้เกิดเที่ยวบิน cargo หลายพันเที่ยวในการขนส่งอาหาร สินค้า ของใช้จำเป็นและอุปกรณ์ทางการแพทย์กว่า 19,872 ตันในช่วงเดือนเมษายน - สิงหาคม 2563 โดยเพิ่มสูงขึ้น 23% จากปีก่อนหน้า

2. นอกจากนั้น VietJet ยังเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ UPS ผู้ให้บริการ Air Cargo ในการสร้างเครือข่ายการขนส่ง Air Cargo ช่วยให้ VietJet ขยายโอกาสธุรกิจเข้าสู่ตลาดขนส่งพัสดุระดับโลก ในขณะเดียวกัน UPS ก็สามารถขยายเข้าสู่ตลาดขนส่งพัสดุในเขต Southeast Asia ผ่านเที่ยวบินของ VietJet และในเดือนกันยายนปี 2563 VietJet สามารถให้บริการขนส่งพัสดุในเส้นทาง Hanoi – USA ได้เป็นครั้งแรก

3. VietJet มองเห็นโอกาสใหม่ในการสร้างรายได้จากค่าโดยสารปกติ โดยเป็นสายการบินแรกๆ ของโลกที่ขายตั๋วแบบ All You Can Fly ที่ให้ผู้โดยสารทั้งแบบ Eco และ Premium สามารถบินกี่เที่ยวก็ได้สำหรับเส้นทางในประเทศกว่า 300 เส้นทางภายในระยะเวลา 1 ปี บวกด้วยการสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารด้วยการมอบประกันโควิดให้กับผู้โดยสารที่เดินทางในทุกเที่ยวบินผ่านโครงการชื่อ Covid Sky Care
 
4. ออกบัตรโดยสารระดับ Deluxe มาขายช่วงโควิค โดยเพิ่มบริการพิเศษเข้าไป (เหมือน full service ticket) เช่น มีเสิร์ฟอาหารแบบ first class รวมประกันสุขภาพและสิทธิพิเศษอื่นๆ ซึ่งเป็นการตลาดที่สวนกระแสอย่างมาก

5. จัดแคมเปญ “Returning to the Sky” 
หลังจากที่ควบคุมสถานการณ์โควิดในประเทศได้อย่างเด็ดขาดแล้ว โดยจัดการเฉลิมฉลองพร้อมส่งเสริมการขายแบบไม่อั้น รวมถึงเปิดเส้นทางการบินใหม่อีก 8  เส้นทาง ทำให้จำนวนเที่ยวบินในไตรมาส 3 ของปี เพิ่มขึ้นถึงระดับ 15,000 เที่ยวบิน ผู้โดยสารกว่า 3 ล้านคน จำนวนเที่ยวบินตรงเวลากว่า 91.64% และได้รับคะแนน Technical Reliability Rate 99.64%

6. เป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนภาครัฐด้านการจัดเครื่องบินเที่ยวพิเศษ
เพื่อรับชาวเวียดนามที่อยู่ในต่างประเทศกลับบ้านในช่วงโควิดรวมกว่า 8 พันคน

7. มีการขยายเส้นทางในต่างประเทศ 
โดยเฉพาะในประเทศไทยมีการเพิ่มเส้นทางใหม่อีก 7 เส้นทาง จ้างงานเพิ่มอีก 700- 1,000 ตำแหน่ง

จากผลงานทั้งหมดที่กล่าวมา ช่วยให้ VietJet เป็นสายการบินเดียวที่คาดการณ์ว่าจะมีผลประกอบการรวมทั้งปีเป็นบวกในขณะที่ธุรกิจสายการบินทั้งโลกอยู่ในสถานะใกล้ล้มละลาย ซึ่งปัจจัยของความสำเร็จนี้มาจาก

1. การปรับตัวที่รวดเร็วโดยไม่รอให้ปัญหามาถึงตัวก่อน

2. การกล้าตัดสินใจทำสิ่งใหม่โดยไม่ยึดติดกรอบเดิม โดยเฉพาะเรื่องการมองหาวิธีการสร้างรายได้จากช่องทางใหม่ และการเข้าเป็นพันธมิตรกับคู่แข่งทางอ้อม ให้กลายเป็นพันธมิตรทางตรง

3. การเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงว่าสิ่งใดจะสร้างความประทับใจและความมั่นใจสูงสุดให้กับลูกค้าได้ จงทำสิ่งนั้นออกมา

เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าเอาไปต่อยอดกับธุรกิจของเราได้อย่างดี

#KrungsriBusiness
#KrungsriBusinessEmpowerment

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วันสาธารณรัฐอิตาลี (Italian Republic Day)

พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ตามมาตรา 26 กำหนดไว้ว่า ในการโฆษณาหรือชี้ชวนเกี่ยวกับรายการนำเที่ยวจะต้องมีรายละเอียดอย่างน้อย 9 ข้อ

นายกำแหง ตันกำแหง และนายสิทธิชัย อุดมกิจธนกุล เข้าร่วมงานวันชาติไอร์แลนด์