ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กรมการท่องเที่ยวร่วมลงนาม MOU รวม 21 หน่วยงาน ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก (Child Safe Friendly Tourism Project)


วันนี้ (7 กันยายน 2565) พลตำรวจเอกธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ให้เกียรติเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก (Child Safe Friendly Tourism Project) ณ ห้องประชุมออดิทอเรียม ชั้น 3 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกรมการท่องเที่ยว ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 21 หน่วยงาน แสดงเจตจำนงเพื่อผนึกกำลังบูรณาการความร่วมมือในลักษณะภาคีหุ้นส่วน (Partnership (ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร (NGOs) และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว) ในการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก เพื่อร่วมกันส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีและความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวทั้งจากนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ทุกคนรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่อพำนักอยู่ในประเทศไทย





พลตำรวจเอกธรรมศักดิ์ วิชชารยะ กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก (Child Safe Friendly Tourism Project) ในวันนี้ โดยได้เปิดเผยว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ห่วงใยในมาตรการป้องกันและคุ้มครองเด็กจากการค้ามนุษย์ และเล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีแนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนเพื่อตัดช่องโอกาสมิให้มีการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กในทุกรูปแบบ แม้ว่าในปีนี้ประเทศไทยได้รับการจัดระดับอยู่ในกลุ่มเทียร์ 2 ตามรายงาน US TIP Report 2022 แต่ยังพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การแสวงหาประโยชน์ทางเพศต่อเด็กในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวบางแห่ง ดังนั้น การที่จะปรับปรุงภาพลักษณ์เดิมเชิงลบที่กล่าวหาว่าประเทศไทยใช้เพศพาณิชย์ดึงดูดนักท่องเที่ยว ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสร้างมาตรฐานทางการท่องเที่ยวที่ปกป้องและคุ้มครองเด็กจากการค้ามนุษย์ การแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก รวมทั้งกำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม เพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจากการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กทุกรูปแบบ



นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกฝ่ายบูรณาการความร่วมมือในลักษณะภาคีหุ้นส่วน ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก ระหว่าง ๒๑ หน่วยงาน โดยร่วมกันพัฒนามาตรการที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กทุกรูปแบบ ทั้งมาตรการเชิงป้องกันและมาตรการจูงใจ การพัฒนาหลักสูตรอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรในสถานประกอบการและนักศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กทุกรูปแบบ การพัฒนามาตรฐานทางการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง การส่งเสริมการสร้างแบรนด์ (Branding) และการใช้ตราสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับธุรกิจที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็กให้เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของสถานประกอบการ และการประชาสัมพันธ์โครงการหรือแผนการต่อต้านการค้ามนุษย์และการล่วงละเมิดทางเพศเด็กของประเทศไทยบนสื่อโซเชียลต่างๆ รวมถึงการขยายการดำเนินการไปยังสถานประกอบการประเภทอื่น ในห่วงโซ่อุปทานทางการท่องเที่ยว


นายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมการท่องเที่ยวยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าการท่องเที่ยวของประเทศไทย ถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ประเทศไทยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโต มีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น โดยสร้างความหลากหลายด้านการท่องเที่ยว สามารถผลักดันให้ประเทศบรรลุเป้าหมายในการเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวระดับโลกที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกระดับ ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก (Child Safe Friendly Tourism Project) ร่วมกันระหว่าง ๒๑ หน่วยงาน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กทุกรูปแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการบูรณาการความร่วมมือในครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ร่วมกัน

ทั้งนี้ 21 หน่วยงานที่ร่วมลงนาม ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมการท่องเที่ยว สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย สมาคมโรงแรมไทย มูลนิธิเพื่อความเข้าใจเด็ก (FOCUS) มูลนิธิเพื่อยุติการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก (ECPAT Foundation) มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย มูลนิธิวัฒนเสรี มูลนิธิรักษ์เด็ก และมูลนิธิเอ - ทเวนตี้วัน (A 21 Foundation) 

#CHILDSAFETY #ChildSafeFriendlyTourismProject


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กรมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการไทยรับ 23 รางวัล ASEAN Tourism Awards 2024 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เชื่อมั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาเซียน

กรมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการไทยรับ 23 รางวัล ASEAN Tourism Awards 2024 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เชื่อมั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาเซียน จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเข้าสู่มาตรฐาน ตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว ฉบับที่ 2 พ.ศ.2559-2568 (ASEAN Tourism Strategic Plan: ATSP 2016-2025) ซึ่งกรมการท่องเที่ยวมีภารกิจในการพัฒนาและส่งเสริมมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน รวมถึงมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน ในปีนี้กรมการท่องเที่ยวจึงได้ดำเนินการตรวจประเมินและให้การรับรองแก่สถานประกอบการและชุมชน ตามมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียนทุกมาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานโรงแรมสีเขียวอาเซียน มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนอาเซียน มาตรฐานโฮมสเตย์อาเซียน มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะอาเซียน และมาตรฐานเมืองท่องเที่ยวสะอาดอาเซียน ทำให้คว้ารางวัลมาได้จำนวน 23 รางวัล เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้นำคณะผู้แทนหน่วยงานและผู้ประกอบการเข้าร่วมพิธีการรับรางวัลการท่องเที่ยวอาเซียน ปี ...

โอกาสดี! กรมการท่องเที่ยวชวนชุมชนท่องเที่ยวสมัครเข้ารับการตรวจประเมิน เพื่อรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน ประจำปี 2567

กรมการท่องเที่ยวเชิญชุมชนท่องเที่ยว สมัครขอรับการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน ประจำปี 2567 โดยชุมชนที่ผ่านการประเมินและได้รับการรับรองจะได้รับเกียรติบัตรมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT Thailand Standard) ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของชุมชนในการรองรับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การสร้างโอกาสและรายได้ให้กับชุมชนท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น โดยส่งใบสมัครได้ที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดในพื้นที่ทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า “ปัจจุบันการท่องเที่ยวโดยชุมชนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ด้วยมนต์สเน่ห์และอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมชนบท ประเพณี และวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นหรือชุมชน ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน กรมการท่องเที่ยวจึงดำเนินโครงการตรวจประเมินเพื่อรับรองมาตรฐานชุมชนท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมีชุมชนสมัครเข้ารับ การตรวจประเมินและผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 70 ราย ทั้งนี้ ชุมชนที่ผ่านการประเมินจะได้รับเกียรติบ...

วันสาธารณรัฐอิตาลี (Italian Republic Day)

วันสาธารณรัฐอิตาลี (Italian Republic Day) วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 18.30 น ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นกรุงเทพ  เขตบางรัก นายสิทธิชัย อุดมกิจธนกุล และนายกำแหง ตันกำแหง ผู้บริหาร บจก. ยู. แทรเวล วาเคชั่นส์ ได้รับเกียรติจาก นายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย  และภริยา เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองวันชาติอิตาลี ครบรอบ 78 ปี ภายในงานมีผู้เข้าร่วมงานทั้งทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ ผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐบาลและภาคธุรกิจเอกชน อาทิเช่น นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม เป็นต้น ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง อิตาลีได้ยกเลิกระบอบราชาธิปไตยและถือกำเนิดเป็นสาธารณรัฐในวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1946 หลังการทำประชามติที่ได้ยุติการปกครองโดยสถาบันพระมหากษัตริย์ของอิตาลีลง จึงมีการเฉลิมฉลองวันที่ 2 มิถุนายนของทุกปีในฐานะวันสาธารณรัฐ