ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม 10 ปท. เยือนชายแดนใต้ รับทราบแนวทางการแก้ปัญหาสถานการณ์ความมั่นคง และ การพัฒนาพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง

คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม 10 ปท. เยือนชายแดนใต้ รับทราบแนวทางการแก้ปัญหาสถานการณ์ความมั่นคง และ การพัฒนาพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง


วันนี้ (25 ก.ค.2566) คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม 10 ประเทศ เดินทางเยือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส หลัง ศอ.บต. ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำหนังสือเชิญเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมการทูตเชิงรุก และสร้างความเข้าใจ การรับรู้อันดีเกี่ยวกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แก่นานาชาติ โดยมีเอกอัครราชทูตจากประเทศมาเลเซีย คูเวต โอมาน อียิปต์ อินโดนีเซีย ตุรกี โมร็อกโก ซาอุดีอาระเบีย อุปทูตจากสถานเอกอัครราชทูตกาตาร์ และปากีสถาน  เดินทางเยือน 3 จังหวัด เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 27 ก.ค.







สำหรับจุดแรก คณะได้เดินทางเยือนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. เพื่อทำความเข้าใจการบริหารราชการแผ่นดินในพื้นที่ 3 จังหวัด ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นคนไทยนับถือศาสนาอิสลาม แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆภายในประเทศ โดยมีผู้บริหาร ศอ.บต. , กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า , สมช. และหัวหน้าส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับ 

โดย พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้นำเสนอการพัฒนา 3 จังหวัด ซึ่งแบ่งการดำเนินงานออก เป็น 3 ด้านหลักๆ คือ การยกระดับคุณภาพชีวิต การสร้างหลักประกันสังคมจิตวิทยาเพื่อสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง และการสนับสนุนการแสวงหาทางออกโดยสันติวิธี ซึ่งมีเป้าหมายสุดสูงสุด เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีสามารถอยู่ร่วมกันได้ในวิถีสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน โดยได้คำนึงพร้อมเน้นการพัฒนาอย่างเป็นธรรรม ไม่แบ่งแยก และเท่าเทียมในทุกศาสนา ที่ผ่านมามีการดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งเข้ารับการศึกษา อาทิ การแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการในเด็กเล็กกว่า 46,000 คน ที่พบว่า มีภาวะเตี้ย แคระ เเกร็น เนื่องจากประชากรมีฐานะยากจน มีอาชีพและรายได้ที่ไม่สอดคล้องกับรายจ่ายในการดำเนินชีวิต ซึ่ง ศอ.บต. ได้มีการพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพที่ยั่งยืน เพื่อกระจายรายได้ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกมิติ




เลขาธิการ ศอ.บต. ได้กล่าวตอนหนึ่งในการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เพื่อทำความเข้าใจแก่ทูตมุสลิม 10 ประเทศว่า ศอ.บต ได้มีการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการดำเนินชีวิตตามอัตลักษณ์ ความเชื่อ โดยไม่ปิดกั้นและไม่เลือกปฏิบัติ ให้ประชาชนได้ดำเนินชีวิตสอดคล้องกับวิถีชีวิต ศาสนา วัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ ทั้งประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม พุทธและชาวไทยเชื้อสายจีน ในส่วนการอำนวยความเป็นธรรมให้กับประชาชน ศอ.บต. ได้อำนวยให้ประชาชนได้เข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานและสวัสดิการของรัฐตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด ในส่วนด้านการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ กรณีเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ พิการ หรือทุพพลภาพ จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาทันที ที่เกิดเหตุ และดูแลอย่างต่อเนื่องตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านจิตใจและร่างกาย

ด้าน พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ในส่วนของ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า มีการปฏิบัติงานในมิติงานด้านความมั่นคง ได้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และ “การพัฒนาตามภูมิสังคม” รวมทั้งพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน โดยกำหนดงานตามนโยบายสำคัญเร่งด่วน 5 งาน คือ งานการควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมาย งานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด งานการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง งานการสร้างความเข้าใจ งานบูรณาการด้านความมั่นคงและด้านการพัฒนา อย่างไรก็ตามในการดำเนินงานควบคุมพื้นที่ กอ.รมน. เน้นการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยยึดหลักการบังคับใช้กฎหมายด้วยความโปร่งใส เสมอภาค และเป็นธรรม ภายใต้การรับรู้และมีส่วนร่วมของผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และเครือญาติ หากจำเป็นต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก คำนึงถึงผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยมุ่งหมายให้เกิดความสงบในสังคม และประชาชนสามารถใช้ชีวิตประจำวันในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างสันติสุข





ขณะที่ นายนริน เวโรจน์วิวัฒน์ ผู้แทนสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดจากความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหาที่รัฐบาลทุกยุคสมัยให้ความสำคัญ อย่างไรก็ตาม จำนวนเหตุรุนแรงมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา โดยสถานะล่าสุด ในห้วงเดือน ๑ ต.ค. 2565 – 30 มิ.ย. 2566 มีสถิติการก่อเหตุรุนแรง จำนวน 86 เหตุการณ์ สถิติผู้เสียชีวิต 33 ราย และบาดเจ็บ 110 ราย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2560 พบว่า มีสถิติการก่อเหตุรุนแรงจำนวน 166 เหตุการณ์ ลดลง จำนวน 80 เหตุการณ์ คิดเป็นร้อยละ 48 และมีจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงร้อยละ 69.44  สะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์ในภาพรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ เป็นผลจากการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาที่รัฐบาลร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อมุ่งให้ปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ได้รับการแก้ไขจนเกิดความสงบและสันติสุขอย่างยั่งยืน ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นายกฯ เชื่อมั่นงานตรุษจีน เยาวราช ปี 2567 ปลอดภัย จัดยิ่งใหญ่แน่นอน

วันนี้ (26 มกราคม 2567) เวลา 09.00 น. ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำคณะผู้จัดงานตรุษจีนเยาวราช เข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อมอบเสื้อตรุษจีน ซึ่งมีสัญลักษณ์ “มังกร” จากภาพวาดฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานเทศกาลตรุษจีน ประจำปี  2567 ณ บริเวณถนนเยาวราช กรุงเทพมหานคร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งวันตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเนื่องในเทศกาลวันตรุษจีนได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามาในประเทศไทยแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และหวังว่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง พร้อมขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทยให้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยมีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยทาง ท

ประธานชุมชนโปลิศสภา ตลาดน้อย จัดงานวันเด็ก 2567

วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2567 เวลา 15.30 น. ณ ชุมชนโปลิศสภา แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์  สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเขต 1 พรรคก้าวไกล (พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ บางรัก ดุสิต) นาย กำแหง ตันกำแหง ผู้บริหารบริษัท อุดมกิจฟิตติ้งวาล์ว จำกัด, บริษัท ยู.แทรเวล วาเคชั่นส์ จำกัด ร่วมกับนายวรเมธ จงโอฬาร (เฮียเกิด) ประธานชุมชนโปลิศสภา เขตสัมพันธวงศ์ กทม. และผู้ใหญ่ใจดี มาร่วมแจกของวันเด็ก เพื่อสร้างสีสันและความสุขให้แก่เด็กๆ ในพื้นที่อย่างมีความสุขและอิ่มแบบจุกจุก ภายในงานมีอาหารบริการให้ผู้เข้าร่วมงานให้อิ่มๆพร้อมมีของติดไม้ติดมือกลับบ้านทุกท่าน #ชุมชนโปลิศสภา #ตลาดน้อย #สัมพันธวงศ์ #ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี #วันเด็ก2567

กรมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการไทยรับ 23 รางวัล ASEAN Tourism Awards 2024 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เชื่อมั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาเซียน

กรมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการไทยรับ 23 รางวัล ASEAN Tourism Awards 2024 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เชื่อมั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาเซียน จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเข้าสู่มาตรฐาน ตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว ฉบับที่ 2 พ.ศ.2559-2568 (ASEAN Tourism Strategic Plan: ATSP 2016-2025) ซึ่งกรมการท่องเที่ยวมีภารกิจในการพัฒนาและส่งเสริมมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน รวมถึงมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน ในปีนี้กรมการท่องเที่ยวจึงได้ดำเนินการตรวจประเมินและให้การรับรองแก่สถานประกอบการและชุมชน ตามมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียนทุกมาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานโรงแรมสีเขียวอาเซียน มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนอาเซียน มาตรฐานโฮมสเตย์อาเซียน มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะอาเซียน และมาตรฐานเมืองท่องเที่ยวสะอาดอาเซียน ทำให้คว้ารางวัลมาได้จำนวน 23 รางวัล เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้นำคณะผู้แทนหน่วยงานและผู้ประกอบการเข้าร่วมพิธีการรับรางวัลการท่องเที่ยวอาเซียน ปี