ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ปี 66 ไทยเป็นโลเคชันถ่ายหนังต่างประเทศ 466 เรื่อง ทุบสถิติรายได้กว่า 6,600 ล้านบาท กรุงเทพฯ อันดับ 1 จาก 5 จังหวัดยอดนิยมที่ถ่ายทำในไทย


ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำหลักที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้สร้างภาพยนตร์ทุกประเภททั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา สารคดี รายการทีวี ไปจนถึงการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องยาว โดยจากสถิติการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2566 ประเทศไทยเป็นโลเคชันถ่ายหนังต่างประเทศ 466 เรื่อง ทำเงินลงทุนกว่า 6,600 ล้านบาท ถือเป็นสถิติจำนวนรายได้สูงสุดนับตั้งแต่มีการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากรายงานสถิติการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2566 ของกรมการท่องเที่ยว (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566) พบว่า ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นโลเคชันในการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศทั้งหมด 466 เรื่อง จาก 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งคณะถ่ายทำภาพยนตร์จากสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่เข้ามาถ่ายทำมากที่สุด ด้วยจำนวนภาพยนตร์ 34 เรื่อง เงินลงทุนกว่า 3,184 ล้านบาท ตามมาด้วยคณะถ่ายทำจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มีเงินลงทุนกว่า 707 ล้านบาท ตามด้วยสาธารณรัฐประชาชนจีน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสาธารณรัฐเกาหลี ตามลำดับ สร้างรายได้เข้าสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศในภาพรวมกว่า 6,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา เกือบ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย (Incentive Measure) ในรูปแบบการคืนเงินสูงสุดร้อยละ 20 ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้กองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศตัดสินใจเข้ามาลุงทุนถ่ายทำในประเทศไทย





โดยกองกิจการภาพยนตร์และวิดีทัศน์ต่างประเทศ (TFO Thailand Film Office) ได้จัดอันดับ 5 จังหวัดของประเทศไทยที่ผู้สร้างภาพยนตร์จากทั่วโลกนิยมใช้เป็นโลเคชันหลักในการถ่ายทำ ดังนี้
อันดับที่ 1 กรุงเทพมหานคร จำนวน 282 เรื่อง อาทิ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร สถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นต้น
อันดับที่ 2 ชลบุรี จำนวน 77 เรื่อง อาทิ ถนนเรียบชาดหายพัทยา เกาะล้าน เกาะสีชัง เป็นต้น
อันดับที่ 3 สมุทรปราการ จำนวน 60 เรื่อง อาทิ เมืองโบราณ The Studio Park ท่าเรือศุภนาวา เป็นต้น
อันดับที่ 4 ปทุมธานี จำนวน 52 เรื่อง อาทิ ACTS Studio มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นต้น
และอันดับที่ 5 ภูเก็ต จำนวน 47 เรื่อง อาทิ หาดพาราไดซ์ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี เป็นต้น


นอกจากมาตรการส่งเสริมแรงจูงใจแล้ว คณะถ่ายทำต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นโลเคชันถ่ายทำภาพยนตร์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้สร้างหนังได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถกระจายรายได้ไปสู่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เกิดการจ้างงานทีมงานไทย การเช่าสถานที่และอุปกรณ์การถ่ายทำ หรือในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เช่น โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สินค้าท้องถิ่น เป็นต้น รวมถึงการประชาสัมพันธ์ Soft power ด้านต่างๆ ของประเทศไทยผ่านกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ซึ่งสามารถสร้างการรับรู้ให้กับผู้ชมทั่วโลก อันจะทำให้เกิดการท่องเที่ยวตามรอยการถ่ายทำภาพยนตร์ต่อไป

@ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมการท่องเที่ยว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กรมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการไทยรับ 23 รางวัล ASEAN Tourism Awards 2024 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เชื่อมั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาเซียน

กรมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการไทยรับ 23 รางวัล ASEAN Tourism Awards 2024 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เชื่อมั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาเซียน จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเข้าสู่มาตรฐาน ตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว ฉบับที่ 2 พ.ศ.2559-2568 (ASEAN Tourism Strategic Plan: ATSP 2016-2025) ซึ่งกรมการท่องเที่ยวมีภารกิจในการพัฒนาและส่งเสริมมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน รวมถึงมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน ในปีนี้กรมการท่องเที่ยวจึงได้ดำเนินการตรวจประเมินและให้การรับรองแก่สถานประกอบการและชุมชน ตามมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียนทุกมาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานโรงแรมสีเขียวอาเซียน มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนอาเซียน มาตรฐานโฮมสเตย์อาเซียน มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะอาเซียน และมาตรฐานเมืองท่องเที่ยวสะอาดอาเซียน ทำให้คว้ารางวัลมาได้จำนวน 23 รางวัล เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้นำคณะผู้แทนหน่วยงานและผู้ประกอบการเข้าร่วมพิธีการรับรางวัลการท่องเที่ยวอาเซียน ปี ...

โอกาสดี! กรมการท่องเที่ยวชวนชุมชนท่องเที่ยวสมัครเข้ารับการตรวจประเมิน เพื่อรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน ประจำปี 2567

กรมการท่องเที่ยวเชิญชุมชนท่องเที่ยว สมัครขอรับการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน ประจำปี 2567 โดยชุมชนที่ผ่านการประเมินและได้รับการรับรองจะได้รับเกียรติบัตรมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT Thailand Standard) ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของชุมชนในการรองรับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การสร้างโอกาสและรายได้ให้กับชุมชนท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น โดยส่งใบสมัครได้ที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดในพื้นที่ทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า “ปัจจุบันการท่องเที่ยวโดยชุมชนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ด้วยมนต์สเน่ห์และอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมชนบท ประเพณี และวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นหรือชุมชน ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน กรมการท่องเที่ยวจึงดำเนินโครงการตรวจประเมินเพื่อรับรองมาตรฐานชุมชนท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมีชุมชนสมัครเข้ารับ การตรวจประเมินและผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 70 ราย ทั้งนี้ ชุมชนที่ผ่านการประเมินจะได้รับเกียรติบ...

วันสาธารณรัฐอิตาลี (Italian Republic Day)

วันสาธารณรัฐอิตาลี (Italian Republic Day) วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 18.30 น ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นกรุงเทพ  เขตบางรัก นายสิทธิชัย อุดมกิจธนกุล และนายกำแหง ตันกำแหง ผู้บริหาร บจก. ยู. แทรเวล วาเคชั่นส์ ได้รับเกียรติจาก นายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย  และภริยา เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองวันชาติอิตาลี ครบรอบ 78 ปี ภายในงานมีผู้เข้าร่วมงานทั้งทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ ผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐบาลและภาคธุรกิจเอกชน อาทิเช่น นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม เป็นต้น ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง อิตาลีได้ยกเลิกระบอบราชาธิปไตยและถือกำเนิดเป็นสาธารณรัฐในวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1946 หลังการทำประชามติที่ได้ยุติการปกครองโดยสถาบันพระมหากษัตริย์ของอิตาลีลง จึงมีการเฉลิมฉลองวันที่ 2 มิถุนายนของทุกปีในฐานะวันสาธารณรัฐ