ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาชี้แจง ประเด็นบริษัททัวร์ในไทยเดือดร้อนจากทัวร์ราคาถูกของจีน

กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอชี้แจงประเด็นบริษัททัวร์ในไทยเดือดร้อนจากทัวร์ราคาถูกของจีน ประจำวันที่ 25 เมษายน 2561 ผู้ชี้แจง-แถลง นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว

จากกรณีสื่อนำเสนอปัญหาทัวร์จีนราคาถูก ทำผู้ประกอบการทัวร์ของไทยเดือดร้อน มีประเด็นดังนี้
     1.นายวิทยา พงษ์ศิริ ประธานชมรมเพื่อนไกด์ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทนอมินีของกลุ่มจีนในเชียงใหม่ รวมถึงบริษัทในประเทศจีน เปิดขายการนำเที่ยวผ่านเว็บไซต์ด้วยราคาที่แสนถูก ทำให้ผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน บางครั้งต้องยอมซื้อกรุ๊ปทัวร์จีนและสำรองเงินค่าใช้จ่ายเพิ่มเอง เมื่อปัญหาสะสมทำให้หลายบริษัทเริ่มขาดสภาพคล่องด้านการเงิน
     2.นายพรชัย จิตรนวเสถียร อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ ระบุว่าบริษัททัวร์จีนเข้ามามีบทบาทและเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ทั้งใน จ.เชียงใหม่ และในอีกหลายจังหวัดภาคเหนือ ด้วยการขายแพ็กเกจราคาถูกพร้อมอาหาร ของฝาก และบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว จนทำให้ผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน
     3. มีรายงานว่ากลุ่มบริษัททุนจีนได้ลงทุนทั้งเช่าและซื้อคอนโดมิเนียม รวมถึงบ้านพักและรีสอร์ตใน
จ.เชียงใหม่ จำนวนมาก จากนั้นก็เปิดขายแพ็กเกจท่องเที่ยวในราคาถูกผ่านเว็บไซต์ ก่อนพากลุ่มนักท่องเที่ยว ชาวจีนเข้ามาพัก
     4. ข้อมูลของชมรมมัคคุเทศก์รักษ์ล้านนา จ.เชียงใหม่ พบว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยว
จ.เชียงใหม่ เพิ่มขึ้นทุกปีโดยปี 2560 มีนักท่องเที่ยวจีนบินตรงมาเชียงใหม่-เชียงราย และ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน มากกว่า 1.4 ล้านคน ส่วนในปี 2561 ประเมินว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ทางกลุ่มจึงมองว่าผลประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ตกเป็นของกลุ่มบริษัททัวร์จีนที่กินรวบไว้ทั้งหมด ส่วนผู้ประกอบการชาวไทยและกลุ่มไกด์ชาวไทยไม่ได้อะไรเลย
     5. เสนอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาทั้งระบบ เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากทัวร์ราคาถูกหรือทัวร์ศูนย์เหรียญเป็นอย่างมาก

ข้อเท็จจริง
     ประเด็นที่ 1 กรณีบริษัทนำเที่ยวที่มีลักษณะประกอบธุรกิจเข้าข่ายเป็นนอมินี ขอให้แจ้งข้อมูลไปยังกรมการท่องเที่ยวเพื่อจะได้ประสานกับตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการเพื่อให้บริษัทดังกล่าวได้รับโทษตามกฎหมาย ส่วนการร้องเรียนว่าบริษัทนอมินีดังกล่าวกดราคาต่ำ จนต้องยอมซื้อทัวร์จีน กรมการท่องเที่ยวขอเรียนชี้แจงว่า การขายทัวร์ราคาต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดถือเป็นความผิด อีกทั้งการการที่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวมอบหมายให้มัคคุเทศก์ ผู้นำเที่ยวหรือบุคคลอื่นใด นำนักท่องเที่ยวในความรับผิดชอบของตนไปท่องเที่ยว โดยเรียกเก็บเงินจากมัคคุเทศก์ ผู้นำเที่ยว หรือบุคคลอื่นนั้น หรือโดยให้บุคคลดังกล่าวรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร หรือค่าอำนวยความสะดวกอื่นใดของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีโทษตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ในเรื่องนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและกรมการท่องเที่ยวมิได้นิ่งนอนใจ และพยายามดำเนินการตรวจจับกุมผู้ประกอบการนอมินีอยู่ตลอดมา ทั้งนี้ เมื่อมัคคุเทศก์ทราบก็ไม่ควรไปยินยอมกระทำการเช่นนั้น
     ประเด็นที่ 2 บริษัททัวร์จีนที่มีการขายแพ็กเกจราคาถูกพร้อมอาหาร ของฝาก และบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยเดือดร้อนนั้น กรมการท่องเที่ยวจะเร่งประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการเข้าไปตรวจเยี่ยม ตรวจสอบสถานประกอบการต่างๆ เช่น กรณีโรงแรมที่พัก จะประสานกระทรวงมหาดไทยร่วมกันดูแลเรื่องการควบคุม การอนุญาต การจดทะเบียนเป็นโรงแรม รวมถึงเรื่องแรงงานต่างด้าวและการให้ความรู้เรื่องภาษี
     ประเด็นที่ 3 กลุ่มบริษัททุนจีนได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้รับผลกระทบในการประกอบอาชีพ ซึ่งตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 กำหนดว่า กรณีบริษัทจำกัด กรรมการผู้มีอำนาจลงนามและประทับตราสำคัญของบริษัท ต้องเป็นบุคคลธรรมดาผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น กรรมการของบริษัทเกินกึ่งหนึ่งต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย ผู้ถือหุ้นต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย ตั้งแต่ 51% ขึ้นไป อย่างไรก็ตาม กรมการท่องเที่ยวได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกตรวจและดำเนินคดีกับบริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เถื่อนตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง และบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานส่วนภูมิภาคในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะเน้นการกวดขัน ควบคุม ตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เถื่อน รวมถึงการตรวจสอบนอมินีในการดำเนินธุรกิจ ตรวจสอบเรื่องรายได้ การเสียภาษี และการนำเงินมาลงทุนว่ามีความถูกต้องหรือไม่
     ประเด็นที่ 4 กลุ่มบริษัททัวร์จีนที่เข้ามาทำธุรกิจแบบกินรวบไว้ทั้งหมด เพื่อหาผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงอาชีพมัคคุเทศก์ ทำให้ผู้ประกอบการชาวไทยและกลุ่มมัคคุเทศก์ชาวไทยมีรายได้ลดลงจนส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงิน บางครั้งพบว่ามัคคุเทศก์ไทยและผู้ประกอบการไทยบางรายยินยอมที่จะสำรองจ่ายค่าทำทัวร์ล่วงหน้าไปก่อน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น นอกจากกรมการท่องเที่ยวได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เพื่อดำเนินการออกตรวจและดำเนินคดีกับบริษัททัวร์ที่ผิดกฎหมายแล้ว กรมการท่องเที่ยวจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม โดยการจัดประชุมหารือร่วมกับผู้แทนมัคคุเทศก์หรือผู้แทนผู้ประกอบการในไทย เพื่อสร้างค่านิยมที่ถูกต้องในการทำทัวร์ ไม่สมยอมในการจ่ายค่าใช้จ่ายในการทำทัวร์ไปก่อนล่วงหน้า
ประเด็นที่ 5 ที่ผ่านมากรมการท่องเที่ยวได้ดำเนินการปราบรามทัวร์ราคาถูกหรือทัวร์ศูนย์เหรียญ
อย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย โดยมีมาตรการในการตรวจสอบ
คือ มัคคุเทศก์จะต้องแต่งกายสุภาพ ติดใบอนุญาตมัคคุเทศก์ตลอดระยะเวลาและมีใบสั่งงาน (Job order) ติดตัวไปด้วย และหากนักท่องเที่ยวไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือถูกบังคับซื้อสินค้าและบริการ สามารถโทรศัพท์แจ้งตำรวจท่องเที่ยวได้ที่ 1155 หรือสายด่วนกรมการท่องเที่ยว 0 2401 1111 โดยมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ดี กรมการท่องเที่ยวอยู่ระหว่างดำเนินการสร้างมาตรฐานในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในด้านต่างๆ เช่น ที่พัก รถบัสขนส่ง ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก เป็นต้น เพื่อเป็นการปรับฐานราคาการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว และเป็นการสร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น ไม่ถูกกดราคา ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่จะได้รับการบริการที่มีคุณภาพ ความสะดวก ความปลอดภัย ความประทับใจและกลับมาเที่ยวประเทศไทยซ้ำอีก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นายกฯ เชื่อมั่นงานตรุษจีน เยาวราช ปี 2567 ปลอดภัย จัดยิ่งใหญ่แน่นอน

วันนี้ (26 มกราคม 2567) เวลา 09.00 น. ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำคณะผู้จัดงานตรุษจีนเยาวราช เข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อมอบเสื้อตรุษจีน ซึ่งมีสัญลักษณ์ “มังกร” จากภาพวาดฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานเทศกาลตรุษจีน ประจำปี  2567 ณ บริเวณถนนเยาวราช กรุงเทพมหานคร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งวันตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเนื่องในเทศกาลวันตรุษจีนได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามาในประเทศไทยแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และหวังว่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง พร้อมขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทยให้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยมีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยทาง ท

ประธานชุมชนโปลิศสภา ตลาดน้อย จัดงานวันเด็ก 2567

วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2567 เวลา 15.30 น. ณ ชุมชนโปลิศสภา แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์  สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเขต 1 พรรคก้าวไกล (พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ บางรัก ดุสิต) นาย กำแหง ตันกำแหง ผู้บริหารบริษัท อุดมกิจฟิตติ้งวาล์ว จำกัด, บริษัท ยู.แทรเวล วาเคชั่นส์ จำกัด ร่วมกับนายวรเมธ จงโอฬาร (เฮียเกิด) ประธานชุมชนโปลิศสภา เขตสัมพันธวงศ์ กทม. และผู้ใหญ่ใจดี มาร่วมแจกของวันเด็ก เพื่อสร้างสีสันและความสุขให้แก่เด็กๆ ในพื้นที่อย่างมีความสุขและอิ่มแบบจุกจุก ภายในงานมีอาหารบริการให้ผู้เข้าร่วมงานให้อิ่มๆพร้อมมีของติดไม้ติดมือกลับบ้านทุกท่าน #ชุมชนโปลิศสภา #ตลาดน้อย #สัมพันธวงศ์ #ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี #วันเด็ก2567

กรมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการไทยรับ 23 รางวัล ASEAN Tourism Awards 2024 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เชื่อมั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาเซียน

กรมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการไทยรับ 23 รางวัล ASEAN Tourism Awards 2024 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เชื่อมั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาเซียน จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเข้าสู่มาตรฐาน ตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว ฉบับที่ 2 พ.ศ.2559-2568 (ASEAN Tourism Strategic Plan: ATSP 2016-2025) ซึ่งกรมการท่องเที่ยวมีภารกิจในการพัฒนาและส่งเสริมมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน รวมถึงมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน ในปีนี้กรมการท่องเที่ยวจึงได้ดำเนินการตรวจประเมินและให้การรับรองแก่สถานประกอบการและชุมชน ตามมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียนทุกมาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานโรงแรมสีเขียวอาเซียน มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนอาเซียน มาตรฐานโฮมสเตย์อาเซียน มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะอาเซียน และมาตรฐานเมืองท่องเที่ยวสะอาดอาเซียน ทำให้คว้ารางวัลมาได้จำนวน 23 รางวัล เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้นำคณะผู้แทนหน่วยงานและผู้ประกอบการเข้าร่วมพิธีการรับรางวัลการท่องเที่ยวอาเซียน ปี