ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ระดมสมอง 40 ซีอีโอต้องการวัคซีนทางเลือกให้เพียงพอ



นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยจัดการประชุมระหว่างหอการค้าไทยกับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัทใหญ่กว่า 40 บริษัท จากทุกกลุ่มธุรกิจของไทย ผ่านระบบประชุมทางไกล เพื่อร่วมกันวางแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของภาคเอกชน และต้องจัดหาวัคซีนทางเลือกให้เพียงพอ



โดยสนับสนุนภาครัฐให้สามารถเปิดประเทศได้อย่างรวดเร็ว เพื่อความปลอดภัยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวโยบายหลัก ภารกิจ 99 วันแรกของการทำงานในหอการค้า ที่ต้องมีการ Connect the dots คือ ดึงความร่วมมือจากทุกฝ่าย ให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้

อย่างไรก็ตาม วัคซีนล็อตใหญ่ที่จะเริ่มเข้ามาตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ จะต้องมีการเตรียมตัว และวางแผนการกระจายวัคซีนให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้น หอการค้าไทยและเครือข่ายภาคเอกชน จะช่วยสนับสนุนภาครัฐในการกระจายวัคซีนที่ภาครัฐจัดซื้อมา ให้เกิดประสิทธิภาพและทั่วถึงมากที่สุด โดยจะเริ่มที่ กทม.ก่อน เพื่อเป็นตัวอย่างให้จังหวัดอื่น ๆ พร้อมสนับสนุนให้เอกชนมีส่วนร่วมในการเจรจาซื้อวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม

“หอการค้าไทยตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2564 ต้องบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนในกรุงเทพฯ 70% โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าของ กทม. ต้องได้รับการฉีดทั้งหมด 100% ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ส่วนการฉีดวัคซีนสำหรับประชาชนทั่วไปในกรุงเทพฯ ต้องให้ได้อย่างน้อย 50,000 โดสต่อวัน โดยภาคเอกชนจะเข้ามาเสริมการทำงานของภาครัฐเพื่อให้ได้เป้าหมายดังกล่าว พร้อมกันนั้น จะจัดทำรูปแบบมาตรฐาน หรือรูปแบบตัวอย่างของภาคเอกชนที่สนับสนุนการฉีดวัคซีน ให้กับจังหวัดอื่น ๆ ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ และเชื่อมั่นว่า ภาคเอกชนสามารถใช้ความถนัด ความเชี่ยวชาญ และ ทรัพยากรของพวกเราเพื่อประเทศได้ ” นายสนั่น กล่าว

อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทยและเครือข่าย จะแบ่งงานออกเป็น 4 ทีม เพื่อสนับสนุนการฉีดวัคซีน ได้แก่

• TEAM A: Distribution and Logistics :
 ทีมสนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีน ช่วยสนับสนุน สถานที่ บุคลากร อาสาสมัคร และอุปกรณ์ IT เช่น คอมพิวเตอร์ ปริ๊นเตอร์ เครื่องอ่านบัตรประชาชน ให้ กทม. เพิ่มจากโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ซึ่งตอนนี้ได้มีการเตรียมและไปลงพื้นที่สำรวจกับ กทม. แล้ว

ในระยะแรก จำนวน 10 พื้นที่ใน กทม. ที่เอกชนจะนำร่อง เช่น กลุ่มเซ็นทรัล , SCG , เดอะมอลล์ , สยามพิวรรธน์ , เอเชียทีค , โลตัส , บิ๊กซี , ทรูดิจิตัลพาร์ค เป็นต้น โดยจะสรุปกับ กทม.ภายใน วันที่ 27 เมษายนนี้ และในระยะถัดไปจะมีการหารือในการจัดทำหน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ไปยังจุดต่าง ๆ เพื่อลดการเคลื่อนย้ายของประชาชน

• TEAM B: Communication :
ทีมการสื่อสาร เพื่อให้ประชาชนเข้าใจและมาฉีดวัคซีนในสถานที่ที่พร้อม เพราะปัจจุบันหลายคนยังไม่เข้าใจเรื่องการฉีดวัคซีน หลายคนไม่ยอมฉีด ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจ  ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ทั้งนี้ ภาครัฐจะทำระบบ “หมอพร้อม” เสร็จสิ้นในเดือนนี้ ซึ่งจะสามารถระบุสถานที่ต่าง ๆ ที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีน การจัดคิวการฉีดที่ไม่หนาแน่น หรือลำดับการฉีดที่เหมาะสม โดยได้รับการสนับสนุนจากหลายบริษัท อาทิเช่น Google, LINE, Facebook, VGI และ Unilever เป็นต้น

• TEAM C: IT Operation :
ทีมเทคโนโลยีและระบบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการลงทะเบียน ขั้นตอนในการฉีดที่รวดเร็ว และมีระบบการติดตามตัว พร้อมสามารถออกใบรับรองการฉีดวัคซีนได้ โดยมีหลายบริษัท นำทีมโดย IBM เข้ามาสำรวจและปรับปรุงกระบวนการ

• TEAM D: Extra Vaccine procurement :
ทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ร่วมกับภาครัฐและเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน โดยจะไปสำรวจความต้องการฉีดวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของรัฐบาล และทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วมากขึ้น นำโดยสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งในวันนี้ได้มีการหารือกันแล้ว ประเมินว่ายังต้องการวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติมอีก 30 ล้านโดส เพื่อให้ครอบคลุม 70% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งวัคซีนทางเลือก ได้แก่ 
1. ประเทศสหรัฐอเมริกา วัคซีน Moderna และ Pfizer 
2. ประเทศจีน วัคซีน Sinopharm และ CanSino Biologics 
3. ประเทศอินเดีย วัคซีน COVAXIN จากบริษัท Bharat Biotech และ 
4. ประเทศรัสเซีย วัคซีน Sputnik V 

ซึ่งภาคเอกชนยินดีที่จะจ่ายค่าวัคซีนให้กับพนักงานของบริษัทรวมแล้วเกือบ 1 ล้านราย เพื่อแบ่งเบาภาระให้กับรัฐบาล

ทั้งนี้ ผลสรุปจากการประชุม CEO ทุกบริษัทเห็นตรงกันว่าขณะนี้ประเทศไทยได้รับการฉีดวัคซีนไปเพียง 0.4% ของประชากรเท่านั้น ซึ่งถือว่าล่าช้ามากสำหรับการที่จะเปิดประเทศที่จะต้องฉีดให้ได้ถึง 70% ของประชากร ภาครัฐจำเป็นต้องจัดหาวัคซีนให้เพียงพอกับทุกคน   โดย CEO ทุกท่านพร้อมที่จะช่วยภาครัฐ ซึ่งหอการค้าไทยพร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการ Connect the dots เพื่อฟื้นเศรษฐกิจไทย และเชื่อว่า หากคนไทยทุกคน ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จะทำให้ประเทศไทยของเราฝ่าวิกฤติ COVID-19 นี้ไปได้อย่างแน่นอน

สำหรับ CEO ที่เข้าร่วมการประชุม ได้แก่
• บจก.น้ำตาลมิตรผล
• บจก.ปูนซิเมนต์ไทย (SCG)
• บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์
• บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ
• บมจ.ซีแวลูกรุ๊ป
• บจก.เซ็นทรัลพัฒนา
• บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น
• บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป
• บมจ.ดุสิตธานี
• บมจ.เดอะมอลล์ กรุ๊ป
• บจก.โตชิบา ไทยแลนด์
• บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น
• บจก.ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม
• บจก.ไทยน้ำทิพย์
• บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ
• บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป
• บมจ.ไทยวิวัฒน์ประกันภัย
• ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
• บมจ.บี.กริม เพาเวอร์
• บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล
• บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์
• COSO Foods Thailand & Vietnam of Pepsi Cola (Thai) Trading Co., Ltd.
• บจก.เมืองไทยประกันภัย
• บจก.ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง
• บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา
• บจก.โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท
• บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
• บจก.ไลน์ ประเทศไทย
• บจก.สยามพิวรรธน์
• บจก.สิงห์ คอร์เปอเรชั่น
• บจก.หลักทรัพย์จัดการกองทุนเมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์
• บจก.เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม (เทสโก้ โลตัส ประเทศไทย)
• บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น
• บจก.ไอบีเอ็ม ประเทศไทย (IBM)
• บมจ. เอ็ม บี เค (MBK Group)
• บจก.เฟซบุ๊ก (ประเทศไทย)
• บจก.กูเกิล (ประเทศไทย)
• Kao Industrial (Thailand) Co., Ltd.
• SIAM MAKRO PCL
• Minor International PCL
• Nestle Indochina, Nestle เป็นต้น

ที่มา สำนักข่าวไทย
วันที่ 20 เมษายน 2564

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กรมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการไทยรับ 23 รางวัล ASEAN Tourism Awards 2024 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เชื่อมั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาเซียน

กรมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการไทยรับ 23 รางวัล ASEAN Tourism Awards 2024 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เชื่อมั่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาเซียน จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเข้าสู่มาตรฐาน ตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว ฉบับที่ 2 พ.ศ.2559-2568 (ASEAN Tourism Strategic Plan: ATSP 2016-2025) ซึ่งกรมการท่องเที่ยวมีภารกิจในการพัฒนาและส่งเสริมมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน รวมถึงมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน ในปีนี้กรมการท่องเที่ยวจึงได้ดำเนินการตรวจประเมินและให้การรับรองแก่สถานประกอบการและชุมชน ตามมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียนทุกมาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานโรงแรมสีเขียวอาเซียน มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนอาเซียน มาตรฐานโฮมสเตย์อาเซียน มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะอาเซียน และมาตรฐานเมืองท่องเที่ยวสะอาดอาเซียน ทำให้คว้ารางวัลมาได้จำนวน 23 รางวัล เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้นำคณะผู้แทนหน่วยงานและผู้ประกอบการเข้าร่วมพิธีการรับรางวัลการท่องเที่ยวอาเซียน ปี ...

โอกาสดี! กรมการท่องเที่ยวชวนชุมชนท่องเที่ยวสมัครเข้ารับการตรวจประเมิน เพื่อรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน ประจำปี 2567

กรมการท่องเที่ยวเชิญชุมชนท่องเที่ยว สมัครขอรับการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน ประจำปี 2567 โดยชุมชนที่ผ่านการประเมินและได้รับการรับรองจะได้รับเกียรติบัตรมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT Thailand Standard) ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของชุมชนในการรองรับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การสร้างโอกาสและรายได้ให้กับชุมชนท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น โดยส่งใบสมัครได้ที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดในพื้นที่ทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า “ปัจจุบันการท่องเที่ยวโดยชุมชนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ด้วยมนต์สเน่ห์และอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมชนบท ประเพณี และวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นหรือชุมชน ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน กรมการท่องเที่ยวจึงดำเนินโครงการตรวจประเมินเพื่อรับรองมาตรฐานชุมชนท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมีชุมชนสมัครเข้ารับ การตรวจประเมินและผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 70 ราย ทั้งนี้ ชุมชนที่ผ่านการประเมินจะได้รับเกียรติบ...

วันสาธารณรัฐอิตาลี (Italian Republic Day)

วันสาธารณรัฐอิตาลี (Italian Republic Day) วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 18.30 น ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นกรุงเทพ  เขตบางรัก นายสิทธิชัย อุดมกิจธนกุล และนายกำแหง ตันกำแหง ผู้บริหาร บจก. ยู. แทรเวล วาเคชั่นส์ ได้รับเกียรติจาก นายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย  และภริยา เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองวันชาติอิตาลี ครบรอบ 78 ปี ภายในงานมีผู้เข้าร่วมงานทั้งทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ ผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐบาลและภาคธุรกิจเอกชน อาทิเช่น นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม เป็นต้น ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง อิตาลีได้ยกเลิกระบอบราชาธิปไตยและถือกำเนิดเป็นสาธารณรัฐในวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1946 หลังการทำประชามติที่ได้ยุติการปกครองโดยสถาบันพระมหากษัตริย์ของอิตาลีลง จึงมีการเฉลิมฉลองวันที่ 2 มิถุนายนของทุกปีในฐานะวันสาธารณรัฐ